ระบาดวิทยาของ Streptococcus suis
      เชื้อก่อโรค Streptococcus suis

      เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococus suis ในสกุล Streptococcus ในตระกูล Streptococcaeae ย้อมติดสี แกรมบวก (สีน้ำเงิน) ลักษณะเซลล์ของแบคทีเรียจะอยู่เป็นคู่ หรือเป็นสายยาวขนาดต่าง ๆ ถูกจัดอยู่ใน Lancefield กลุ่ม D, R หรือ S สามารถสร้างแคปซูลและสลายเม็ดเลือดแดง มีการจัดแบ่งเชื้อตามลักษณะของ Capsular Antigen เป็นซีโรไทป์ (Serotype) ต่าง ๆ ถึง 35 Serotypes ปัจจัยที่มีผลต่อความรุนแรงในการก่อโรคของเชื้อแต่ละซีโรไทป์จะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับสาร Muramidase-released protein (MRP) และ Extracellular protein (EP) ซึ่งพบว่า ซีโรไทป์ที่มีความรุนแรงสูงในการก่อโรคในคนคือ Serotype 2 และ 1 ตามลำดับ
      มีรายงานความทนของเชื้อในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เชื้อ Streptococus suis สามารถอยู่ในแมลงวันได้ 4 วัน อยู่ในน้ำอณุหภูมิ 60ºC ได้นาน 10 นาที อยู่ในน้ำอณุหภูมิ 50ºC ได้นาน 2 ชั่วโมง
อยู่ในซากสัตว์อณุหภูมิ 4ºC ได้นาน 6 สัปดาห์ อยู่ในฝุ่นอณุหภูมิ 0ºC ได้นาน 1 เดือน อยู่ในฝุ่นอณุหภูมิ 25ºC ได้นาน 1 วัน อยู่ในมูลสัตว์อณุหภูมิ 0ºC ได้นาน 3 เดือน อยู่ในมูลสัตว์อณุหภูมิ 25ºC ได้นาน 8 วัน

สัตว์รังโรค สุกร

ระยะฟักตัวและอาการในสัตว์

    สุกรปกติที่มีการติดเชื้อมักไม่แสดงอาการ ส่วนใหญ่เชื้อจะอยู่บริเวณในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น ในโพรงจมูก ต่อมทอนซิล เพดานปาก (palatine tonsil) เยื่อเมือกบุในโพรงจมูก ลำไส้ บางครั้งจะพบเชื้อในช่องคลอดของแม่สุกร เมื่อสุกรอยู่ในภาวะเครียด เช่น สถานที่เลี้ยงแออัด อากาศเปลี่ยนแปลง การถ่ายเทอากาศไม่ดี การเคลื่อนย้าย หรือการได้รับวัคซีน ทำให้ร่างกายสัตว์อ่อนแอเชื้อจะฉวยโอกาสจนเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบของข้อ เยื่อหุ้มสมอง เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด กล้ามเนื่อ และมีการติดเชื้อในกระแสโลหิตจนถึงขั้นเสียชีวิต กลุ่มสุกรที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นสุกรหย่านม สุกรขุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุกรที่อยู่ในช่วงอายุ 8 - 15 สัปดาห์

    วิธีการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน

คนสามารถรับเชื้อ Streptococus suis ได้ 2 ทางใหญ่ ๆ ดังนี้
1. สัมผัสสุกรเป็นโรค กลุ่มเสี่ยงได้แก่ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร คนทำงานในโรงฆ่าสัตว์ คนชำแหละเนื้อสุกร สัตวบาล และสัตวแพทย์ โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล รอยถลอก หรือเยื่อ
2. บริโภคหมูหรือเลือดหมูที่ปรุงไม่สุก

ยังไม่มีรายงานการติดต่อระหว่างคนสู่คน

    มีรายงานการพบการติดเชื้อ Streptococus suis จากหมูสู่คนในต่างประเทศ

ประเทศเนเธอร์แลนด์
พบความเสี่ยงของผู้เลี้ยงหมูหรือทำงานในโรงฆ่าสัตว์ 3 : 100, 000 / ปี คนทั่วไปมีความเสี่ยงน้อยลง 1, 500 เท่า ส่วนคนชำแหละหมูมีความเสี่ยง 1.2: 100, 000 / ป

ประเทศเยอรมันนี มีรายงานกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับหมูพบเชื้อ Streptococus suis ที่โพรงหลังจมูก 5.3 %

ประเทศนิวซีแลนด์
มีรายงานกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับหมู พบผลเลือดบวกต่อเชื้อ Streptococus suis 9-21 %

ระยะฟักตัวในคน
    ระยะฟักตัวของโรคโดยทั่วไปประมาณ 1 - 3 วัน แต่จากรายงานการตรวจผู้ป่วย Streptococus suis 40 รายในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่พบระยะฟักตัว 3 ชั่วโมง - 7 วัน หลังจากสัมผัสหรือบริโภคหมูดิบ
    อาการในคน
อาการทั่วไป
    มีไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นเหียน ปวดศีรษะ

อาการเฉพาะ
    1. เยื่อหุ้มสมองอักเสบมีไข้ ปวดศีรษะมาก คอแข็ง หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทหูจะทำให้การได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลันจนถึงขั้นหูหนวก หูหนวก ภายหลังที่หายจากอาการป่วยแล้วอาจจะมีความผิดปกติในการทรงตัว หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทตาจะทำให้ม่านตาอักเสบ ลูกตาฝ่อ หรือตาบอดได้
    2. ติดเชื้อในกระแสโลหิตเป็นอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
    3. กลุ่มอาการ Toxic Shock Syndrome
    4. กลุ่มอาการอื่น ได้แก่ ข้ออักเสบ หรือลิ้นหัวใจอักเสบ

การดำเนินของโรค

     - กลุ่มเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลังจากได้รับการรักษาไข้จะลดลงใน 2-14 วัน โดยเฉลี่ย 6 วัน และอาจป็นซ้ำในกรณีที่ได้รับยาน้อยกว่า 14 วัน (Suankratay 2004) ผลการตรวจน้ำไขสันหลังพบ ระดับโปรตีนสูง น้ำตาลต่ำ จำนวนเม็ดเลือดขาวสูง อาจย้อมพบเชื้อ (Wangkeaw 2006) อาการหูเสื่อมเกิดได้ในช่วง 1-21 วัน (Suankratay 2004: 1-14 วัน, CMU 2007: 1-9 วัน, Clements 1984: 1-21 วัน)

    การรักษา

ยาต้านจุลชีพ

    - ยาฉีดเพนนิซิลลินขนาดสูง 18-24 ล้านยูนิตทางหลอดเลือดดำ > 2 สัปดาห์ เพราะอาจเป็นซ้ำ

    - กลุ่ม 3rd generation cephalosporin : cetriazone cefotaxime

    - Levofloxacin (Tarawichitkul,2006)

ยาอื่น ๆ

    - สเตียรอยด์แต่ยังไม่มีข้อสรุป

    การป้องกันและควบคุมโรค

    เนื่องจากเชื้อนี้มีสุกรเป็นสัตว์พาหะนำโรคซึ่งมักไม่แสดงอาการป่วย ดังนั้นการเลี้ยงดูสุกรให้อยู่ในสภาวะสุขาภิบาลที่ดี เช่น ไม่เลี้ยงให้อยู่กันอย่างแออัด อากาศในโรงเรือนถ่ายเทได้ดี สามารถป้องกันความหนาวเย็นขณะที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันได้ สุกรจะมีร่างกายแข็งแรง เชื้อ Streptococus suis ที่มีอยู่ในช่องปากและโพรงจมูกก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนและฉวยโอกาสก่อให้เกิดโรคในสุกรได้ นอกจากนั้นแล้วควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสุกรดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ

    เชื้อชนิดนี้ที่ถูกทำลายได้ง่ายโดยน้ำยาฆ่าเชื้อและความร้อน ดังนั้นการปรับปรุงวิธีการเลี้ยงสุกรให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล โดยการสวมรองเท้าบู๊ตเวลาทำงานในคอกสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ และการบริโภคเนื้อสุกรที่ปรุงสุก จึงเป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด

    ผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococus suis
    ที่เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พ.ศ. 2543 - 2549 พบผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococus suis จำนวน 81 ราย

พ.ศ. 2546-2549 พบผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococus suis จำนวน 40 ราย สัดส่วนเพศชายต่อหญิงเท่ากับ 3 : 1 อายุเฉลี่ย 55 ปี จากการสอบประวัติผู้ป่วยพบ 2 ใน 3 มีประวัติกินเนื้อหมูดิบ 1 ใน 5 มีแผลที่ผิวหนัง 2 ใน 3 ดื่มสุรา และ 1 ใน 3 มีโรคประจำตัว อาการของโรคที่ดำเนินไปพบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ : เยื่อบุหัวใจอักเสบ : ติดเชื้อในกระแสเลือดเท่ากับ 2:1:1 บางรายมีอาการลูกตาอักเสบ และเยื่อบุช่องท้องอักเสบ พบอัตราตาย ร้อยละ 20

    ในช่วง พ.ศ 2545-2549 พบผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococus suis ที่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจำนวน 15 ราย พบผู้ป่วยหูตึง หูหนวกถาวร 10 ราย (67 %) โดยเริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 1 - 9 วัน หลังเกิดอาการไข้ ปวดศีรษะ เกิดอาการหูตึงทั้ง 2 ข้าง 7 ราย 5 ใน 7 ราย หูเสื่อมปานกลางถึงหูหนวก อาการหูตึง 1 ข้าง 3 ราย 2 ราย หูเสื่อมน้อย 1 รายหูหนวก ตรวจพบประสาททรงตัวเสื่อมมาก 6 ราย ใน 12 ราย (no caloric response พบทุกรายที่หูหนวกหรือเสื่อมรุนแรง) มีอาการเดินเซ และเวียนศีรษะ 10 รายใน 15 ราย
    จากการรายงานของภาควิชาจักษุวิทยา ในช่วง 3 ปี 2547-2549 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบจาก Streptococus suis ที่มีอาการตาบอด ตาฝ่อ ข้างเดียว หรือ สองข้าง อย่างน้อย 10 ราย

     ลูกตาปลอม ↑

    ตัวอย่างผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

     ผู้ป่วยรายที่ 80 วันที่ 8 สิงหาคม 2549

     ผู้ป่วยเป็นชายไทย อายุ 27 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ด้วยอาการเวียนศีรษะหมุน อาเจียน ไข้สูง มีอาการปวดศีรษะและกล้ามเนื้อ 5 วันก่อนมาโรงพยาบาลและ ให้ประวัติ 6 ชั่วโมง ก่อนมีอาการได้ดื่มเหล้าพื้นเมืองร่วมกับเลือดหมูดิบ ไตหมูดิบ

    ผลการวินิจฉัยโรค พบเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อ Streptococus suis มีสมองบวมร่วมกับประสาทหู และประสาททรงตัวเสื่อม และ พบเริมที่ริมฝีปากร่วมด้วย
    หลังการรักษาผู้ป่วยหายเป็นปกติ การได้ยินกลับเป็นปกติทั้งสองข้าง

    ผู้ป่วยรายที่ 81 วันที่ 3 กันยายน 2549

    ผู้ป่วยเป็นชายไทย อายุ 74 ปี รับย้ายจากโรงพยาบาล เอกชน มานอนรักษาที่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ด้วยอาการชักเกรง อ่อนแรงแขน ขาซีกซ้าย และมีไข้สูง มีประวัติรับประทานหมูกระทะ 3วัน ก่อนมีอาการ

     ผลการวินิจฉัยโรค พบเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อ Streptococus suis ร่วมกับภาวะเนื้อสมองขาดเลือด ประสาทหูเสื่อม และเริมที่ริมฝีปาก

     การรักษา ได้รับการฉีดยารักษาโรค 2 สัปดาห์

    ภายหลังจากกลับบ้าน 2 สัปดาห์ในวันที่ 4 ตุลาคม 2549 ต้องมาโรงพยาบาลอีกครั้งเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบซ้ำ การได้ยินหลัง 6 เดือน หูขวาหนวก หูซ้ายเสื่อมปานกลาง

เรียบเรียงจากการบรรยายของ รศ.พญ.นิรมล นาวาเจริญ หัวข้อเรื่อง ระบาดวิทยาของ Streptococcus suis และประสบการณ์การรักษา ในการประชุม Outbreak Conference เรื่อง Streptococcus suis จัดโดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันที่ 24 - 25 พฤษภาคม 2550

เอกสารอ้างอิง

เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย และประวิทย์ ชุมเกษตร, ข่าวการเกิดโรคในคนที่ติดต่อมาจากสุกรในสาธารณรัฐประชาชนจีน, รายงานเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ที่ 29 วันที่ 17-23 กรกฎาคม 2548 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 2548 :36 (29).

นิรมล นาวาเจริญ, ระบาดวิทยาของ Streptococcus suis และประสบการณ์การรักษา, สไลด์ประกอบการบรรยาย การประชุม Outbreak Conference เรื่อง Streptococcus suis โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ วันที่ 24-25 พฤษภาคม 2550 ()